ก่อนกาลนานมาแล้ว ณ อาณาจักรเครื่องครัว มีเจ้าหญิงช้อนแสนสวย อยู่กับพระราชากระทะและพระราชินีตะหลิวในพระราชวังอันวิจิตรงดงาม ประชาชนที่อยู่ภายใต้การปกครองก็อยู่กันอย่างมีความสุข แผ่นดินมั่นคงเป็นปึกแผ่น เนื่องมาจากอำนาจของพระราชา และของวิเศษ3สิ่ง คือมงกุฏเพชร(มีอำนาจในการทำลาย) มงกุฏลม(ทำให้ผู้ใส่มีความว่องไวดุจสายลม และหายตัวได้) และมงกุฏอธิษฐาน(เป็นฐานแห่งพลังของอาณาจักร)
จนกระทั่งวันหนึ่ง พระราชาทุเรียนแห่งอาณาจักรผลไม้ต้องการพลังของมงกุฏทั้งสาม และต้องการจะรวมอาณาจักรผลไม้กับอาณาจักรเครื่องครัวเข้าด้วยกัน จึงส่งนายพลมะนาว มาลักพาตัวเจ้าหญิงช้อนไป โดยมีข้อต่อรองว่า
"ถ้าอยากจะได้เจ้าหญิงช้อนคืน ให้นำมงกุฏทั้งสามมาแลก" พระราชาทุเรียนประกาศก้อง
พระราชากระทะร้อนใจยิ่งนัก จึงได้ประกาศหาตัวผู้กล้าที่จะพาตัวเจ้าหญิงกลับมาให้ได้ โดยจะแบ่งทรัพย์สมบัติในท้องพระคลัง และดินแดนของอาณาจักรให้ครึ่งหนึ่ง
บรรดาผู้กล้า อัศวิน และ เจ้าชาย จากทั่วอาณาจักรเครื่องครัว ได้มาเข้าเฝ้าพระราชาเพื่อจะไปช่วยเจ้าหญิงตามประกาศนั้น โดยบางคนได้ขอทหาร เสบียง หรืออาวุธไปด้วย พระราชาก็ประทานให้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่ช่วยเจ้าหญิงกลับมาได้สักที
เวลาผ่านจากวันเป็นเดือน ทำให้พระราชายิ่งกระวนกระวาย และขณะนั้นก็ได้มีราชสาส์นมาจากพระราชาทุเรียน ความว่า
'ถ้าหากท่านยังไม่ยอมส่งมงกุฏทั้งสามให้เรา เราจะปลิดชีวิตเจ้าหญิงช้อนเสีย แล้วจะยกทัพไปตีอาณาจักรเครื่องครัว'
ตอนนั้น พระราชาก็เริ่มหมดหวัง บรรดาผู้กล้าที่ไปช่วยเจ้าหญิง หลายคนไม่กลับมา หลายคนกลับมาด้วยสภาพที่แทบจะต้องคลานมา จำนวนผู้กล้าที่มาสมัครไปช่วยเจ้าหญิงลดลงเรื่อยๆ
"อาณาจักรผลไม้แข็งแกร่งจริงๆ เราอาจจะต้องส่งขุมพลังทั้งสามแห่งอาณาจักรให้ราชาทุเรียนเพื่อแลกกับลูกของเราจริงๆ"พระราชาทอดถอนใจ พลางมองเหม่อออกไปทางประตูพระราชวัง แล้วก็พบกับ เครื่องครัวซอมซ่อๆชิ้นหนึ่งยืนอยู่ ส้อมนั่นเอง
"เจ้ามีธุระอะไรที่นี่"พระราชาตรัสถามด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยว
"ข้ามาตามประกาศ จะไปช่วยเจ้าหญิง"ส้อมซอมซ่อตอบอย่างมั่นใจ
"เจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะมีปัญญาช่วย"พระราชาตรัสถามอย่างดูถูก"บรรดาผู้กล้าที่แข็งแกร่งกว่าเจ้า พร้อมด้วยกองทหารและอาวุธยังช่วยไม่ได้ แล้วส้อมซอมซ่ออย่างเจ้าจะช่วยได้งั้นหรือ"
ส้อมยิ้มรับคำปรามาสนั้นอย่างนอบน้อมพร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น "ได้สิพะยะค่ะ แต่ว่าข้าต้องขอยืม มงกุฏเพชรกับมงกุฏลมของท่าน"
เมื่อพระราชาได้ฟังคำขอของส้อมมก็ทรงโกรธมาก "ถ้าเจ้าคิดว่าเจ้าจะช่วยเจ้าหญิงได้ด้วยมงกุฏนี่เจ้าคิดผิดซะแล้วละ สิ่งนี้มีแต่ผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะใช้ได้"
"ลองดูก็ไม่เสียหายนี่ท่าน ก็ในเมื่อท่านคิดจะยกมงกุฏนี่ให้กับพระราชาทุเรียนอยู่แล้ว อย่างน้อยก็อาจจะพอมีความหวังอยู่บ้าง"ส้อมตอบพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตาพระราชาด้วยแววตาที่มีประกายกล้า เมื่อพระราชาเห็นดังนั้นแล้วก็เริ่มเชื่อใจส้อมซอมซ่อผู้นี้ และให้ยืมมงกุฏทั้งสอง เมื่อส้อมกำลังจะออกเดินทางพระราชาก็ได้กล่าวคำอวยพร
"ขอให้มีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับเจ้า"ส้อมน้อมรับแล้วรีบออกเดินทางทันที
เมื่อมาถึงชายแดนเมืองผลไม้ช้อนก็ได้พบกับกองทหารสับปะรดที่แข็งแกร่ง ทหารเหล่านั้นตรงเข้ามาจะจับเขา แต่เขาก็สามารถจับการกับกองทัพเหล่านั้นด้วยดาบสีเขินที่เขาพกมาด้วย แล้วเขาก็รีบเดินไปยังปราสาทอย่างรวดเร็ว
เจ้าหญิงช้อนถูกขังอยู่บนหอคอยของปราสาท ส้อมแอบลัดเลาะเข้ามาจนถึงแล้วพยายามพังกรงที่กักขังอิสระภาพของเจ้าหญิง
'เคร้ง เคร้ง' เสียงคมดาบปะทะลูกกรงดังอย่างต่อเนื่อง แต่ลูกกรงนั้นก็ยังไม่มีแม้แต่รอยบิ่น
เจ้าหญิงช้อนเห้นดังนั้นจึงพูดออกมาว่า "มีแต่มงกุฏเพชรเท่านั้นที่สามารถทำลายกรงนี่ได้"
ส้อมจึงใช้พลังของมงกุฏเพชรทำลายลูกกรง และเขาก็ ทำได้
แต่พลังที่ทำลายนั้นมันมหาศาล เกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่ว พวกทหารผลไม้มากมายวิ่งมายังที่ๆพวกเขาอยู่
ส้อมได้ใช้พลังของมงกุฏลมพาตัวเจ้าหญิงหนีไปอย่างรวดเร็ว พระราชาทุเรียนก็ได้สั่งให้ทหารมากมายตามจับตัวพวกเขา พร้อมกับสั่งให้ยกทัพไปตีอาณาจักรเครื่องครัวทันทีเนื่องจากรู้ว่าอาณาจักรเครื่องครัวได้ขาดกำลังสำคัญ
ส้อมพาเจ้าหญิงช้อนมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำพรมแดน พวกทหารชักสะพานขึ้นทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู
"แย่แล้ว เราจะทำยังไงดี"เจ้าหญิงช้อนเอ่ยด้วยความหวาดหวั่น ทันใดนั้นก็เกิดลมพายุใหญ่หอบเจ้าหญิงช้อนไปยังอีกฟากแม่น้ำซึ่งเป็นดินแดนเครื่องครัว เป็นฝีมือของส้อมนั่นเอง
"พระองค์รีบหนีไป ข้าจะจัดการเจ้าพวกนี้ก่อน แล้วข้าจะตามไปทีหลัง"เจ้าหญิงช้อนร้องไห้ฟูมฟายแต่ก็รีบวิ่งเข้าไปยังเขตเมือง แล้วก็พบกับกองทัพของพระราชา สองพ่อลูกดีใจเข้าสวมกอดกัน และเจ้าหญิงช้อนก็เล่าเร่องทั้งหมดให้ฟัง พระราชาจึงยกทัพหลวงไปที่ริมแม่น้ำนั้นทันที
เมื่อถึงเขตแม่น้ำแล้วพระองค์ก็นำมงกุฏอธิษฐานออกมา และใช้พลังอย่างสุดท้าย ขอพรกับมงกุฏ
"ด้วยอำนาจของมงกุฏ ข้าขอให้ช่วยชีวิตส้อม และขอให้เจ้าหญิงช้อนกับส้อมได้อยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุขไปชั่วกาลนาน" สิ้นเสียงคำกล่าว ท้องฟ้าก็ปั่นป่วน พายุโหมรุนแรง แต่สักพักหนึ่ง เมฆดำก็ลอยหายไปพร้อมกับปรากฏร่างของส้อม และทหารผลไม้หายไปหมด รวมทั้งทัพใหญ่ของพระราชาทุเรียนด้วย
"ตอนนี้เราก็ได้ใช้อำนาจของมงกุฏอธิษฐานไปแล้ว ไม่มีพลังหลักที่จะค้ำจุนอาณาจักรเครื่องครัวแล้ว เว้นแต่ว่า จะเรียกพลังนั้นคืนมาใหม่" พระราชากระทะพูดพร้อมกับนำมงกุฏอธิษฐานสวมบนหัวของส้อม
"ตอนนี้เราไม่ใช่พระราชาอีกแล้ว เราไม่มีอำนาจที่จะควบคุมพลังของของวิเศษทั้งสาม ท่านคือผู้ที่ถูกเลือกให้เป็นพระราชาองค์ใหม่ ด้วยอำนาจสุดท้ายของพระราชา ข้าขอสถาปนาพระราชาองค์ใหม่ 'พระราชาส้อม' พร้อมกับจัดพิธีอภิเษกสมรสระหว่างช้อนกับส้อม"
จากนั้นส้อมก็ได้เป็นพระราชา และช้อนก็ได้เป็นราชินี ทั้งสองได้ทำสัญญาสงบศึกกับอาณาจักรผลไม้และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไปชั่วกาลนานตามคำอธิษฐานของพระราชากระทะ แม้กระทั่งในบัดนี้ เวลากินข้าวก็ต้องมีช้อนอยู่คู่กับส้อม รึว่าไม่จริง??
++++++++++H@ppY EnDiNG++++++++++
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น